what's TAKTAI
ความเป็นมาของพวกเรา
“สวัสดีค่ะ”
ขอทักทายทุกคนด้วยความรู้สึกยินดียิ่ง การที่เราได้มาพบเจอกันในวันดีๆ อย่างนี้
เชื่อเหลือเกินว่าไม่ใช่แค่ความบังเอิญค่ะ
พวกเราล้วนมีความสุขเมื่อหันไปมองธรรมชาติสดชื่นรอบตัว รู้สึกยินดีปรีดาเมื่อเป็นส่วนหนึ่งที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ยังบริสุทธิ์งดงาม ได้เห็นต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เห็นดอกไม้ผลิบานตรงหน้า
สัมผัสกับบรรยากาศรายรอบอันร่มรื่น และหากสูดอากาศได้อย่างเต็มปอดอย่างสบายใจว่าไม่มีสิ่งปนเปื้อน นั่นคือชีวิตที่ดีงามของพวกเราท่ามกลางใจกลางกรุงเทพมหานครที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
เสื้อผ้าของ “ทักทาย” กำเนิดขึ้นจากก้าวเล็กๆ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งสนใจในการทำเส้นใยผ้าจากธรรมชาติ ก่อนจะมุ่งสู่สิ่งทอที่กระบวนการผลิตใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านการเรียนรู้ลองผิดลองถูก ปรับแปลงอยู่นานจนมั่นใจได้ในปัจจุบัน ว่าเสื้อผ้าของทักทายนั้นไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่คุณภาพอยู่ในระดับสากล แต่ยังช่วยอนุรักษ์ความเป็นไทยไว้ได้อีกด้วยค่ะ
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อ คุณกัญจิรา ส่งไพศาล อดีตโปรแกรมเมอร์ซึ่งผันตัวออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ย่างเท้าก้าวเข้ามาสู่โลกของ “เส้นใยธรรมชาติ”
เริ่มจากของดีในไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในเวทีโลกอย่าง ใยไผ่ กล้วย ข่า กัญชง ผักตบชวา บัว และสับปะรด.. ฟังดูแล้วน่าสดชื่นระคนตื่นเต้นเหลือเกิน เราเดินทางในสายลมแห่งธรรมชาติ ก้าวเท้าสู่รั้วชุมชน พบปะพูดคุยกับชาวบ้านผู้รู้ อีกทั้งยังสืบค้นข้อมูลและงานวิจัยเกี่ยวกับเส้นใยผ้าอย่างจริงจัง จนเกิดความเอิบอิ่มในองค์ความรู้ทั้งหลาย กระทั่งทำให้คุณกัญจิราเดินทางถึงเป้าหมายแรกสำเร็จ
เมื่อตัดสินใจสร้างแบรนด์ “ทักทาย”...
จุดเด่นของเรา
ธรรมชาติ 100% เส้นใยจากไผ่ เบาสบาย ระบายอากาศ
เรียบง่ายแต่ดูดี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ผสานความรักษ์ธรรมชาติและสืบสานภูมิปัญญาไทย
ความหมายของ “ทักทาย”
เพราะเราอยากให้คนได้รู้จักกับเรา เรามีความเป็นมิตร เข้าถึงง่าย คบหาแล้วสบายใจ การทักทายคือจุดเริ่มต้นอย่างผ่อนคลายค่ะ
เมื่อเราเปิดพจนานุกรม จะพบว่า “ทักทาย” หมายความถึง “การไต่ถามถึงความเป็นอยู่หรือทุกข์สุขอย่างเป็นกันเอง” ซึ่งกริยานี้ถูกนำมาใช้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม เพื่อแสดงถึงความเป็นมิตร หรือแสดงถึงความมีน้ำใจไมตรีต่อกัน
แต่ “ทักทาย” ในแบบฉบับของเราถูกขยายความให้กว้างขึ้น จากมนุษย์กับมนุษย์ ไปสู่มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ด้วยรูปแบบของการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย รู้จักใช้ทรัพยากรทุกอย่างให้เกิดมูลค่าสูงสุด ด้วยวิธีการที่ไร้พิษภัยต่อธรรมชาติ อาทิ การใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ที่ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ เป็นต้น เราอยากเชิญท่านเข้ามาสัมผัส และทำความรู้จัก ทักทาย แล้วจะเข้าใจว่า ทักทายนั้นไร้พิษภัย และพร้อมที่จะเป็นมิตรกับท่านและโลกใบนี้อย่างแท้จริงค่ะ
ปลาตะเพียนตัวนั้น
เมื่อนึกถึงชาวบ้านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทักทาย ในฐานะของชุมชนที่ช่วยผลิตใยผ้าและทอผ้า ความเป็นชาวบ้านนี้เองเชื่อมโยงถึง “ปลาตะเพียน” เพราะทุกคนคงคุ้นเคยภาพของการแขวนปลาตะเพียนสานหลายตัว ทั้งเล็กใหญ่เอาไว้ให้เด็กน้อยดู ไม่เพียงจะทำให้สัมผัสถึงความเป็นชนบท แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความผูกพันต่อกันในฐานะครอบครัวอีกด้วย
ปลาตะเพียนได้ถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยการส่งผ่านแรงบันดาลใจจากการสานใบลานถักทอเพื่อเป็นของเล่น ไปสู่เทคนิคการสอดประสานเส้นใยจากวัสดุเหลือใช้ในธรรมชาติ ถักทอให้กลายเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มให้คนไทยได้ภาคภูมิใจในภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของเราควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อ ต่อยอดภูมิปัญญาไทยให้ทันสมัยอยู่เสมอ ดังสโลแกนของเราที่ว่า “Crafted for all”
แม้ว่าทักทายจะหยิบจับเอาธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็นสิ่งทอที่มีคุณภาพ มีคุณค่าจากธรรมชาติ และเป็นมิตรแก่สิ่งแวดล้อม แล้วนั้นในส่วนของธรรมชาติที่ถูกนำมาใช้ในการผลิต ล้วนแต่เป็นพืชพรรณที่เติบโตง่าย และสร้างออกซิเจนให้แก่โลกใบนี้อย่างมากมาย สุดท้ายทักทายก็ไม่ลืมที่จะปลูกทดแทนและดูแลต่อไป
ในปัจจุบัน ทักทาย สามารถนำพืชธรรมชาติชนิดต่างๆ มาทำเป็นเส้นใย เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสิ่งทออย่างหลากหลาย เริ่มต้นคัดสรรตั้งแต่วัตถุดิบ เพื่อนำมาผลิตเป็นเส้นใย เราใช้กระบวนการ และเครื่องจักรที่ใช้พลังงานจากไอน้ำ ในการแยกเส้นใย เพื่อลดการเกิดของเสียจากกระบวนการผลิตสู่สิ่งแวดล้อม
เมื่อได้เส้นใยจากธรรมชาติมาแล้วนั้น ก็จะเข้าสู่กระบวนปั่นเส้นด้าย ก่อนจะมาสู่ขั้นตอนของการทอผ้า และตัดเย็บด้วยมือ และวิถีดั่งเดิมของชาวบ้าน ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกรังสรรค์จากธรรมชาติ ไร้สารเคมี และถักทอด้วยความใส่ใจ อย่างแท้จริง
ก้าวต่อไปของทักทาย จะไม่หยุดอยู่ที่การผลิตเสื้อผ้าจากเส้นใย สร้างวิถีอนุรักษ์ธรรมชาติ และให้ชุมชนคนไทยมีส่วนร่วม แต่อนาคตคือความท้าทายที่จะนำเสนอวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแต่เปี่ยมสุขนี้ ให้คนภายนอกได้รู้จัก ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสนับสนุนผ้าไทยจากวัตถุดิบธรรมชาติ ให้โลดแล่นสู่สากล
จากเมืองไทยแดนรอยยิ้มซึ่งจะอินกับผ้าออร์แกนิกในไม่ช้า เราจะไปทักทายกับเพื่อนใหม่จากภายนอก และถูกจดจำวิถีชีวิตการแต่งกายที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่โลกอันสวยงามใบนี้อีกด้วย